เมนู

โน้น พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ เหมือนบุรุษผู้มีกำลังพึงเหยียดแขนที่คู้หรือพึง
คู้แขนที่เหยียด ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงเห็นมนุษย์เหล่านั้น
บางพวกแสวงหาเรือ บางพวกแสวงหาพ่วง บางพวกผูกแพ ต้องการจะ
ข้ามไปฝั่งโน้น.
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรง
เปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
ชนเหล่าใดจะข้ามห้วงน้ำคือสงสาร และสระคือ
ตัณหา ชนเหล่านั้นกระทำสะพานคืออริยมรรค ไม่
แตะต้องเปือกตมคือกามทั้งหลาย จึงข้ามสถานที่ลุ่ม
อันเต็มด้วยน้ำได้ ก็ชนแม้ต้องการจะข้ามน้ำมีประ-
มาณน้อย ก็ต้องผูกแพ ส่วนพระพุทธเจ้า และ
พุทธสาวกทั้งหลายเป็นผู้มีปัญญา เว้นจากแพก็ข้าม
ได้.

จบปาฏลิคามิยสูตรที่ 6

อรรถกถาปาฏลิคามิยสูตร



ปาฏลิคามิยสูตรที่ 6

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า มคเธสุ แปลว่า ในแคว้นมคธ. บทว่า มหตา ความว่า แม้
ในที่นี้ ได้แก่ ภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เพราะใหญ่โดยคุณบ้าง ใหญ่โดยจำนวน
โดยการกำหนดนับไม่ได้บ้าง. บทว่า ปาฏลิคาโม ได้แก่ บ้านตำบลหนึ่ง
ในแคว้นมคธ อันมีชื่ออย่างนี้. ข่าวว่า ในวันสร้างบ้านนั้น หน่อแคฝอย